fbpx

หน้าหลัก / ข้อหารือสรรพากร / ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการพิจารณาระยะเวลาในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว 


ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการพิจารณาระยะเวลาในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว

วันที่เอกสาร

5 กุมภาพันธ์ 2562

เลขที่หนังสือ

กค 0702/พ.842

เลขตู้

82/40835

ข้อกฎหมาย

มาตรา 84/4 มาตรา 84/1 (2) และมาตรา 27 ตรีแห่งประมวลรัษฎากร

ข้อหารือ

          การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 84/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยมีข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
          1. Mr.M. ได้เดินทางเข้า – ออกราชอาณาจักรไทย จำนวน 2 ครั้ง ดังนี้
                -ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2558
                -ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8 มีนาคม 2559 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2559
          2. เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 Mr.M. ได้ซื้อสินค้าจำนวน 32,700 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 2,139.25 บาท จากร้านค้าผู้ประกอบการขายสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยว (ผู้ประกอบการ) ซึ่ง Mr.M. ได้รับใบกำกับภาษีพร้อมทั้งแสดงความจำนงต่อผู้ประกอบการเพื่อให้จัดทำคำร้อง ภ.พ.10 ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 1,720 บาท (จำนวนสุทธิหลังหักค่าธรรมเนียม)
          3. เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2558 Mr.M. ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร (ครั้งที่ 1) โดยนำสินค้าที่ซื้อจากผู้ประกอบการ พร้อมกับใบกำกับภาษีและคำร้อง ภ.พ.10 ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากร ซึ่งเจ้าพนักงานศุลกากรได้ตรวจสินค้าตามคำร้องและประทับตราแสดงการตรวจแล้ว แต่ Mr.M. ไม่ได้ไปขอรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกับเจ้าพนักงานสรรพากรในวันดังกล่าว รวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ซื้อสินค้าจนถึงวันที่นำสินค้าออกนอกราชอาณาจักร เป็นเวลา 46 วัน
          4. Mr.M. เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งที่ 2 ในวันที่ 8 มีนาคม 2559 โดยไม่ได้มีการซื้อสินค้าแต่อย่างใด และในวันที่ 10 เมษายน 2559 ซึ่งเป็นวันที่ Mr. M. เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ก็ได้ยื่นคำร้อง ภ.พ.10 พร้อมใบกำกับภาษีฉบับเดิมที่ได้รับการประทับตราจากเจ้าพนักงานศุลกากรตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2558 ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่ซื้อสินค้าจนถึงวันที่ยื่นขอคืนภาษี เป็นเวลา 151 วัน

แนววินิจฉัย

          1. กรณีที่ Mr.M. ซื้อสินค้าเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 และเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2558 (รวมระยะเวลา 46 วัน) โดย Mr.M. ได้นำสินค้าที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร ไปพร้อมกับการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ซื้อสินค้าเป็นวันแรก และได้ทำคำร้อง ภ.พ.10 พร้อมกับใบกำกับภาษีไปแสดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศในขณะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และเจ้าพนักงานศุลกากรได้ตรวจสินค้าตามคำร้องและประทับตราแสดงการตรวจแล้ว ถือว่า Mr. M. ได้ปฏิบัติตามข้อ 4 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 91)ฯ ลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 แล้ว ดังนั้น Mr. M. ย่อมมีสิทธิขอรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานสรรพากร ตามมาตรา 84/4 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 4 วรรคสาม ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว
          2. กรณีที่ Mr. M. ไม่ได้ไปขอรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกับเจ้าพนักงานสรรพากรในวันที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร (วันที่ 27 ธันวาคม 2558 (วันที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ครั้งที่ 1)) แต่ได้ไปขอรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในวันที่ 10 เมษายน 2559 (วันที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ครั้งที่ 2) นั้น เนื่องจากมาตรา 84/4 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 91)ฯ ลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการขอรับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไว้เป็นการเฉพาะ ดังนั้น Mr.M. จึงมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณีดังกล่าวได้ภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 27 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

กรมสรรพากรแก้ไขล่าสุด

1 พฤษภาคม 2562

Tag :
ข้อหารือกรมสรรพากร