ขออภัยมีข้อจำกัดในการแสดงผล
บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร
พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
พระราชกำหนด
พระราชกฤษฎีกา
กฎกระทรวง
ประกาศกระทรวงการคลัง
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร
คำสั่งกรมสรรพากร
ประกาศกรมสรรพากร
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
คำชี้แจงกรมสรรพากร
ข่าวการปรับปรุง
 
 
     
 

คำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ป.๑๔๔/๒๕๕๕
เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้และการเสียภาษีเงินได้ กรณีการขายสินค้ายาสูบ
ที่โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ได้เสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้าดังกล่าวทุกทอด
ตามมาตรา ๔๘ ทวิ และมาตรา ๖๕ จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร

-----------------------

                    เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการตรวจและแนะนำเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีเงินได้และการเสียภาษีเงินได้ สำหรับการขายสินค้ายาสูบที่โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังได้เสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้าดังกล่าวทุกทอดตามมาตรา 48 ทวิ และมาตรา ๖๕ จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

                    ข้อ ๑ ในกรณีโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ได้ขายสินค้ายาสูบให้แก่ผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้ขายส่ง (ป.๑) ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) หรือผู้ขายปลีก (ป.๓) โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายสินค้าดังกล่าวทอดหนึ่งทอดใดหรือทุกทอดที่ซื้อสินค้ายาสูบ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในอัตราร้อยละ ๑๒.๕ ของกำไรของผู้ขายส่งไม่ว่าทอดใด และในอัตราร้อยละ ๑๐.๐ ของกำไรของผู้ขายปลีก ภาษีที่โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ได้เสียแทนตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเป็นเครดิตภาษีในการคำนวณภาษีเงินได้ของผู้ซื้อสินค้ายาสูบ เฉพาะกรณีที่ผู้ซื้อสินค้ายาสูบไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้

                    ข้อ ๒ คำว่า “กำไร” หมายความว่า ผลต่างระหว่างราคาขายกับราคาซื้อสินค้าที่โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังกำหนดไว้สำหรับผู้ขายส่งแต่ละทอดหรือผู้ขายปลีก แล้วแต่กรณี คูณด้วยปริมาณสินค้าที่โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังขายให้ผู้ขายส่งทอดแรก ดังนั้น การคำนวณกำไรเพื่อเสียภาษีเงินได้ของผู้ขายส่ง ผู้ขายส่งช่วง และผู้ขายปลีก จึงต้องคำนวณจากฐานราคาขายส่ง ราคาขายส่งช่วง และราคาขายปลีกตามประกาศกำหนดราคาขายบุหรี่ซิกาแรตของโรงงานยาสูบ
                    ตัวอย่าง
                    (ก) ราคาขายส่งบุหรี่กรองทิพย์ไลทส์ตามประกาศของโรงงานยาสูบห่อละ ๒๐๗.๗๕ บาท และราคาที่ผู้ขายส่ง (ป.๑) ซื้อจากโรงงานยาสูบห่อละ ๒๐๕.๕๐ บาท ดังนั้น ผลต่างระหว่างราคาขายกับราคาซื้อสินค้าที่โรงงานยาสูบกำหนดไว้สำหรับผู้ขายส่งเท่ากับ ๒.๒๕ บาท (๒๐๗.๗๕ - ๒๐๕.๕๐) และโรงงานยาสูบมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายส่งในอัตราร้อยละ ๑๒.๕ ของกำไรของผู้ขาย เป็นจำนวน ๐.๒๘๑๒๕ บาท
                    (ข) ราคาขายส่งช่วงบุหรี่กรองทิพย์ไลทส์ตามประกาศของโรงงานยาสูบห่อละ ๒๑๐.๐๐ บาท และราคาที่ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) ซื้อจากโรงงานยาสูบห่อละ ๒๐๗.๗๕ บาท ดังนั้น ผลต่างระหว่างราคาขายกับราคาซื้อสินค้าที่โรงงานยาสูบกำหนดไว้สำหรับผู้ขายส่งช่วงเท่ากับ ๒.๒๕ บาท (๒๑๐.๐๐ - ๒๐๗.๗๕) และโรงงานยาสูบมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายส่งช่วงในอัตราร้อยละ ๑๒.๕ ของกำไรของผู้ขายส่งช่วงเป็นจำนวน ๐.๒๘๑๒๕ บาท
                    (ค) ราคาขายปลีกบุหรี่กรองทิพย์ไลทส์ตามประกาศของโรงงานยาสูบห่อละ ๒๒๐.๐๐ บาท และราคาที่ผู้ขายปลีก (ป.๓) ซื้อจากโรงงานยาสูบห่อละ ๒๑๐.๐๐ บาท ดังนั้น ผลต่างระหว่างราคาขายกับราคาซื้อสินค้าที่โรงงานยาสูบ กำหนดไว้สำหรับผู้ขายปลีกเท่ากับ ๑๐.๐๐ บาท (๒๒๐.๐๐ - ๒๑๐.๐๐) และโรงงานยาสูบมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้แทนผู้ขายปลีกในอัตราร้อยละ ๑๐.๐ ของกำไรของผู้ขายปลีก เป็นจำนวน ๑.๐๐ บาท

                    ข้อ ๓ กรณีผู้ขายส่ง ( ป.๑) ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) หรือผู้ขายปลีก (ป.๓) ตามข้อ ๑ เป็นบุคคลธรรมดา เงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามข้อ ๒(๑๙) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร โดยผู้ขายส่ง ( ป.๑) ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) หรือผู้ขายปลีก (ป.๓) ดังกล่าวเมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา ๔๘(๑) และ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
                    ตัวอย่าง                    
                    นาย ก ประกอบกิจการเป็นผู้ขายส่งช่วงบุหรี่ (ป.๒) ของโรงงานยาสูบ มีเงินได้พึงประเมินจากการขายส่งช่วงบุหรี่ในปีภาษี ๒๕๕๕ จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามข้อ ๒(๑๙) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.๙๔ และ ภ.ง.ด.๙๐) นาย ก ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายบุหรี่ครึ่งปีและทั้งปี (จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท)มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา ๔๘(๑) และ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร ในปีภาษี ๒๕๕๕

                    ข้อ ๔ กรณีผู้ขายส่ง ( ป.๑) ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) หรือผู้ขายปลีก (ป.๓) ตามข้อ ๑ เป็นบุคคลธรรมดา มีเงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบและมีเงินได้พึงประเมินประเภทอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เฉพาะเงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามข้อ ๒(๑๙) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ดังนั้น ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) หรือผู้ขายปลีก (ป.๓) ดังกล่าวเมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ให้นำเงินได้พึงประเมินประเภทอื่นๆ มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา ๔๘(๑) และ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
                    ตัวอย่าง                    
                    นาย ก ประกอบกิจการเป็นผู้ขายส่งช่วงบุหรี่ (ป.๒) ของโรงงานยาสูบ มีเงินได้พึงประเมินจากการขายส่งช่วงบุหรี่ในปีภาษี ๒๕๕๕ จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และมีเงินได้พึงประเมินจากการขายของเบ็ดเตล็ดตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.๙๔ และ ภ.ง.ด.๙๐) นาย ก ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายของเบ็ดเตล็ดครึ่งปีและทั้งปี (จำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท) มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา ๔๘(๑) และ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร และได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายบุหรี่ครึ่งปีและทั้งปี (จำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท) มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในปีภาษี ๒๕๕๕

                    ข้อ ๕ กรณีผู้ขายส่ง ( ป.๑) ผู้ขายส่งช่วง (ป.๒) หรือผู้ขายปลีก (ป.๓) ตามข้อ ๑ เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนั้น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายสินค้ายาสูบดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่ขายสินค้ายาสูบนั้นตามเกณฑ์สิทธิ ตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร และหากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น มีหลักฐานการเสียภาษีแทนผู้ขายสินค้ายาสูบเป็นบัญชีแสดงรายการภาษีเงินได้ชำระล่วงหน้า (บ.ช. ๑๗) ที่โรงงานยาสูบออกให้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวมีสิทธินำภาษีที่โรงงานยาสูบเสียแทน มาถือเป็นเครดิตภาษีในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ ตามมาตรา ๖๕ จัตวา วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร
                    ตัวอย่าง
                    (ก) บริษัท ข จำกัด ประกอบกิจการเป็นผู้ขายส่งบุหรี่ (ป.๑) ของโรงงานยาสูบ มีเงินได้พึงประเมินจากการขายส่งบุหรี่ตามเกณฑ์สิทธิ ในปีภาษี ๒๕๕๕ จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และมีหลักฐานการเสียภาษีแทนผู้ขายส่งบุหรี่ เป็นบัญชีแสดงรายการภาษีเงินได้ชำระล่วงหน้า (บ.ช. ๑๗) ที่โรงงานยาสูบออกให้ จำนวน ๖,๗๖๘.๙๕ บาท บริษัท ข จำกัด ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายส่งบุหรี่จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.๕๑ และ ภ.ง.ด.๕๐) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๕ ตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร และมีสิทธินำภาษีที่โรงงานยาสูบเสียแทนผู้ขายส่ง มาถือเป็นเครดิตภาษีในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้
                    (ข) บริษัท ข จำกัด ประกอบกิจการเป็นผู้ขายส่งช่วงบุหรี่ (ป.๒) ของโรงงานยาสูบ มีเงินได้พึงประเมินจากการขายส่งช่วงบุหรี่ตามเกณฑ์สิทธิ ในปีภาษี ๒๕๕๕ จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และไม่มีหลักฐานการเสียภาษีแทนผู้ขายส่งช่วงบุหรี่ (บ.ช. ๑๗) ที่โรงงานยาสูบออกให้ บริษัท ข จำกัด ต้องนำเงินได้พึงประเมินจากการขายส่งช่วงบุหรี่จำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.๕๑ และ ภ.ง.ด.๕๐) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี ๒๕๕๕ ตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร และไม่มีสิทธินำภาษีที่โรงงานยาสูบเสียแทนผู้ขายส่งช่วง มาถือเป็นเครดิตภาษีในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่อย่างใด

                    ข้อ ๖ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือตอบข้อหารือหรือทางปฏิบัติใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้เป็นอันยกเลิก

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

สาธิต รังคสิริ
(นายสาธิต รังคสิริ)
อธิบดีกรมสรรพากร

clear-gif

NAVIGATOR:  ประมวลรัษฎากร > คำสั่งกรมสรรพากร > ป.144/2555