หน้าหลัก / ข้อหารือสรรพากร / ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการขออนุมัติหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการขออนุมัติหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
วันที่เอกสาร
7 สิงหาคม 2561
เลขที่หนังสือ
กค 0702/6198
เลขตู้
81/40751
ข้อกฎหมาย
มาตรา 50 ทวิ (1) มาตรา 52 มาตรา 59 และมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ
2. บริษัทฯ ขออนุมัติเป็นผู้ดำเนินการจัดทำหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ลงนามในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้แก่กรมสรรพากรแทนผู้ประกอบการแฟรนไชส์ สำหรับค่าบริการให้สิทธิแฟรนไชส์ ค่าเช่าสถานที่ ค่าส่งเสริมการขาย ค่าโฆษณา ค่าบริหารสินค้าคงคลังและค่าขนส่งสินค้า
แนววินิจฉัย
2. เนื่องจากผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตาม 1. มีจำนวนมากและบางรายอยู่ในสถานที่ห่างไกล ทำให้บริษัทฯ ได้รับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายไม่ครบถ้วนและต้องใช้เวลาในการติดตามรวบรวมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นเวลานาน ดังนั้น กรณีที่บริษัทฯ มีความประสงค์เป็นตัวแทนของผู้จ่ายเงินได้ เพื่อออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่ผู้จ่ายเงิน เข้าลักษณะเป็นการกระทำแทนตัวการ ตามมาตรา 797 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งบริษัทฯ มีสิทธิกระทำได้ โดยผู้จ่ายเงินจะต้องจัดทำสัญญาแต่งตั้งตัวแทนมอบอำนาจให้บริษัทฯ กระทำการแทนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยให้บริษัทฯ ซึ่งเป็นตัวแทนดำเนินการดังนี้
แต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนได้ แต่หากเป็นผู้จ่ายเงินซึ่งมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย รายใหม่ จะต้องมีการแต่งตั้งตัวแทนอย่างชัดแจ้ง
  (2) กรณีบริษัทฯ หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับค่าบริการให้สิทธิแฟรนไชส์ ค่าเช่าสถานที่ ค่าส่งเสริมการขาย ค่าโฆษณา ค่าบริหารสินค้าคงคลัง และค่าขนส่งสินค้า แทนผู้จ่ายเงินแล้ว ผ่อนผันให้ผู้จ่ายเงินไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายค่าบริการให้สิทธิแฟรนไชส์ ค่าเช่าสถานที่ ค่าส่งเสริมการขาย ค่าโฆษณา ค่าบริหารสินค้าคงคลัง และค่าขนส่งสินค้า ให้กับบริษัทฯ ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นรายฉบับทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน แต่บริษัทฯ ต้องจัดทำรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย และบริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าว
รายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ต้องมีรายการอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
(ก) คำว่า “รายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ประจำเดือน … พ.ศ. … ” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
(ข) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยมีข้อความว่า “ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินได้ตามรายชื่อที่ระบุไว้ในเอกสารนี้”
(ค) ประเภทเงินได้
(ง) ชื่อ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนเงินภาษีที่หักไว้
(จ) ลายมือชื่อผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย
  (3) เพื่อเป็นการรับรองว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แทนผู้จ่ายเงินแล้ว ให้บริษัทฯ ระบุข้อความเพิ่มเติมในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีของค่าบริการให้สิทธิแฟรนไชส์ ค่าเช่าสถานที่ ค่าส่งเสริมการขาย ค่าโฆษณา ค่าบริหารสินค้าคงคลัง และค่าขนส่งสินค้า โดยมีข้อความว่า “บริษัทฯ ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5 ร้อยละ 3 ร้อยละ 2 หรือร้อยละ 1 เป็นจำนวน … บาท แทนผู้จ่ายเงินแล้ว และจะดำเนินการนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป” ซึ่งบริษัทฯ จะต้องจัดให้มีการ SCAN หรือพิมพ์ลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจไว้ในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีดังกล่าวด้วย
  (4) ให้บริษัทฯ ยื่นแบบรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามแบบ ภ.ง.ด.53 โดยระบุในช่องผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้กระทำการแทนผู้จ่ายเงินในใบแนบ ภ.ง.ด.53 พร้อมทั้งแนบรายละเอียดรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งระบุชื่อผู้จ่ายเงิน เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงิน จำนวนเงินที่จ่าย และจำนวนภาษีที่หัก และให้ถือว่าเอกสารรายละเอียดดังกล่าวเป็นใบต่อแบบ ภ.ง.ด.53 ด้วย
  (5) ให้บริษัทฯ ใช้สำเนาแบบ ภ.ง.ด.53 และหลักฐานใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่รับชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี ตามมาตรา 60 แห่งประมวลรัษฎากร
กรมสรรพากรแก้ไขล่าสุด
29 ตุลาคม 2561
Tag :
ข้อหารือกรมสรรพากร